เพลงที่ว่านั้นมีชื่อว่า Auld Lang Syne ซึ่งเป็นภาษาสก็อต แปลเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า Old Time’s Sake ที่หมายถึงช่วงเวลาในอดีตที่ผ่านมา
ในกลุ่มประเทศตะวันตกที่ใช้ภาษาอังกฤษ อย่าง สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ นิยมขับร้องเพลง Auld Lang Syne ในคืนนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ เนื่องจากเพลงนี้มักจะใช้ถ่ายทอดอารมณ์หวนถึงอดีตและการจากลา เป็นนัยว่าผู้ร้องกำลังบอกลาปีเก่าที่ผ่านไป
เนื้อเพลง Auld Lang Syne
ในช่วงศตวรรษที่ 18 กวีชาวสก็อต โรเบิร์ต เบิร์นส์ ได้เดินทางไปยังเมืองต่างๆ ทั่วสก็อตแลนด์และได้บันทึกบทประพันธ์ ท้องถิ่นในภาษาสก็อตเอาไว้ หนึ่งในบทกวีพื้นบ้านที่โรเบิร์ตได้รวบรวมไว้ก็คือ Auld Lang Syne และได้รับตีพิมพ์ในปีค.ศ. 1796 แต่เดิมนั้นบทประพันธ์ชิ้นนี้เขียนขึ้นในภาษาสก็อต โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับการหวนรำลึกถึงเรื่องราวในอดีต และมิตรภาพระหว่างเพื่อนที่มีมาอย่างยาวนาน
เพลง Auld Lang Syne เป็นเพลงพื้นบ้านที่ร้องกันมาอย่างยาวนาน มีนักวิชาการสันนิษฐานว่าอาจแพร่หลายอยู่ในสก็อตแลนด์มาหลายศตวรรษ ก่อนจะนิยมนำมาร้องในเทศกาล Hogmanay หรือวันขึ้นปีใหม่ของสก็อตแลนด์ในช่วงศตวรรษที่ 19
นักดนตรีวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยเอดิบะระ Morag Grant กล่าวว่าจากการศึกษาเพลง Auld Lang Syne เนื้อหาของเพลงช่วยเชื่อมโยงชีวิตของผู้คนที่อยู่ในชีวิตของกันและกันตลอดหลายปี

Auld Lang Syne is traditionally played after the ball drops at midnight on New Year's Eve in Times Square in New York. Source: AAP
บทเพลงแห่งการร่ำลา
มอแร็กพบว่ามีคนหลากหลายประเทศทั่วโลกที่นำเพลง Auld Lang Syne ไปร้องในวัฒนธรรมของตน อย่างเช่นในช่วงปีค.ศ. 1850 งานรับปริญญาใช้เพลงนี้เพื่อบอกลาเหล่าบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษา ต่อมาในปีค.ศ. 1929 รายการวิทยุประจำวันสิ้นปีที่ออกอากาศทั่วสหรัฐอเมริกา ได้นำเพลง Auld Lang Syne มาเล่นในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ทุกๆ ปี เป็นเวลากว่า 30 ปีต่อมา รายการวิทยุดังกล่าวได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและทำให้เพลงจากสก็อตแลนด์กลายเป็นดนตรีที่เล่นในวันขึ้นปีใหม่ในทวีปอเมริกาเหนือ
จากรายการวิทยุสู่รายการโทรทัศน์ ตั้งแต่ปีค.ศ. 1972 พิธีกรชาวอเมริกัน ดิค คลาร์ก กลายเป็นผู้จัดรายการพิเศษถ่ายทอดสดในวันสิ้นปีจากไทม์สแควร์ นครนิวยอร์ก เมื่อลูกบอลที่ยอดอาคารวันไทม์สแควร์หล่นลงมาบอกเวลาเที่ยงคืน เพลง Auld Lang Syne ก็จะดังขึ้นท่ามกลางประชาชนหลายแสนที่ไปรวมตัวกันที่ใจกลางแมนแฮตตัน และผู้ชมรายการผ่านทางโทรทัศน์ที่มีมากถึงหลายสิบล้านคน
เพลง Auld Lang Syne ในฐานะเพลงส่งท้ายปีเก่าจึงอยู่ในสื่อกระแสหลักในโลกตะวันตกมาโดยตลอด คุณผู้อ่านอาจจะเคยได้ยินได้ฟังเพลงนี้จากภาพยนตร์ฮอลลีวูด เช่น ฉากจบของเรื่อง When Harry Met Sally (1989) ฉากงานฉลองปีใหม่ของเรื่อง Forrest Gump (1994) หรือแม้แต่ในภาพยนตร์อนิเมชันอย่าง Despicable Me 3 (2017)
Auld Lang Syne ในวัฒนธรรมทั่วโลก
เมื่อปี 2020 หลังจากที่สหราชอาณาจักรถอนตัวจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป ก็มีการเปิดเพลง Auld Lang Syne ณ รัฐสภายุโรปเพื่ออำลาอดีตสมาชิก บทเพลงจากสก็อตแลนด์ยังปรากฏในพิธีปิดกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ณ กรุงปักกิ่งเมื่อปี 2022 อีกด้วย
ในวัฒนธรรมญี่ปุ่น ทำนองของเพลง Auld Lang Syne ได้นำมาผสมผสานกับเนื้อเพลงภาษาญี่ปุ่น ชื่อเพลงแสงแห่งหิ่งห้อย ที่มักจะเล่นในโอกาสงานสำเร็จการศึกษา และยังใช้เป็นเพลงที่เปิดก่อนเวลาห้างร้านจะปิดลง เพื่อส่งสัญญาณให้ลูกค้าในร้านทราบว่าถึงเวลาปิดทำการแล้ว
นอกจากนี้ในเกาหลีใต้ยังเคยมีเพลงชาติที่ใช้ทำนอง Auld Lang Syne เมื่อปีค.ศ. 1945-1948 ก่อนจะปรับใช้ทำนองใหม่ที่ร้องมาจนถึงปัจจุบัน
ชาวดัตช์เองก็คุ้นเคยกับทำนองเพลงนี้เช่นกัน เนื่องจากเพลงประจำทีมฟุตบอลทีมชาติที่ชื่อว่า Wij Houden Van Oranje หรือ We Love Orange ก็ร้องด้วยทำนอง Auld Lang Syne
Auld Lang Syne ในวัฒนธรรมไทย
ในวัฒนธรรมไทยก็เช่นกัน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวหรือรัชกาลที่หก มีการแปลและดัดแปลงวรรณกรรมฝั่งตะวันตกสู่สยามไม่น้อย อันเป็นอิทธิพลจากพระบรมวงศานุวงศ์ที่สำเร็จการศึกษาจากกลุ่มประเทศยุโรปที่กลับมาพร้อมกับวิชาความรู้และความบันเทิงในรูปแบบของวรรณกรรม ดนตรี เครื่องแต่งกาย ไปจนถึงวิถีชีวิต
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงแปลบทละครของเชคสเปียร์หลายเรื่องด้วยกัน เช่น โรมีโอและจูเลียต เวนิสวาณิช และทรงพระราชนิพนธ์บทละครที่ดัดแปลงมาจากบทละครเชคสเปียร์ เช่น มัทนะพาธา และพระยาราชวังสัน เป็นต้น
นอกจากนี้ยังทรงก่อตั้งกิจการลูกเสือขึ้นในปี พ.ศ. 2454 โดยมีรูปแบบจากลูกเสือที่เริ่มต้นในสหราชอาณาจักร ต่อมาพระยาวิสุทธสุริยศักดิ์ หรือหม่อมราชวงศ์เปีย มาลากุล ได้นำทำนองของเพลง Auld Lang Syne และประพันธ์คำร้องภาษาไทย มาใช้เป็นเพลงสามัคคีชุมนุม ที่มีหน้าที่เป็นเพลงปิดการชุมนุมรอบกองไฟ และขับร้องพร้อมกับไขว้แขนล้อมเป็นวงกลมเช่นเดียวกับธรรมเนียมในสหราชอาณาจักร
Auld Lang Syne
Should old acquaintance be forgot,
And never brought to mind?
Should old acquaintance be forgot,
And auld lang syne?
(Chorus)
For auld lang syne, my dear,
For auld lang syne,
We’ll take a cup of kindness yet,
For auld lang syne.
And surely you’ll buy your pint cup!
And surely I’ll buy mine!
And we’ll take a cup o’ kindness yet,
For auld lang syne.
We two have run about the slopes,
And picked the daisies fine;
But we’ve wandered many a weary foot,
Since auld lang syne.
We two have paddled in the stream,
From morning sun till dine;
But seas between us broad have roared
Since auld lang syne.
And there’s a hand my trusty friend!
And give me a hand o’ thine!
And we’ll take a right good-will draught,
For auld lang syne.









