แพทย์ทั่วไปหรือจีพีเจอภาระงานหนักขึ้น ทั้งระบุว่าคนไข้มาพบด้วยโรคเฉพาะทางและใช้เวลาปรึกษานานกว่าเดิม

NHS accused after demanding GP appointment details

แพทย์ทั่วไปกำลังตรวจความดันโลหิตให้คนไข้ Source: AAP / Anthony Devlin/PA

รายงานการตรวจโรคทั่วไปในออสเตรเลียเปิดเผยว่านัดหมายตรวจโรคของแพทย์ทั่วไป (General Practitioner : GP) นั้นใช้เวลานานมากขึ้นเพื่อรักษาโรคที่ซับซ้อนกว่าเดิม แบบสำรวจจากองค์การสุขภาพแห่งชาติที่สอบถามแพทย์ทั่วไปกว่า 2,500 คน ระบุว่าขณะนี้แพทย์ทั่วไปกำลังรักษาโรคของคนไข้ที่โดยปกติแล้วจะต้องไปพบแพทย์เฉพาะทาง


แพทย์หญิงรัมยา รามัน แพทย์ทั่วไปที่รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย เธอยังรับหน้าที่รองประธานวิทยาลัยศึกษาแพทย์ทั่วไปในพระราชูปถัมภ์แห่งออสเตรเลีย (The Royal Australian College of General Practitioners)

แบบสำรวจรายงานสุขภาพแห่งชาติของปีนี้เกี่ยวข้องกับประสบการณ์ของแพทย์หญิงรัมยาโดยตรง เนื่องจากเธอก็เผชิญกับชั่วโมงนัดหมายที่กินเวลานานขึ้นและโรคของคนไข้ที่ซับซ้อนกว่าเดิม

“ในฐานะแพทย์ทั่วไปที่เป็นผู้หญิง ฉันมีคนไข้ที่มารักษาโรคที่ซับซ้อน โดยเฉพาะโรคในกลุ่มจิตเวช เวลาปรึกษาเพื่อรักษาโรคจึงค่อนข้างนาน ฉันไม่ได้จะบ่น จริงๆ ก็เป็นเรื่องดีด้วยซ้ำที่นัดหมายแต่ละครั้งใช้เวลานานเพื่อจะได้รักษาคนไข้ได้ดีขึ้น”

รายงานดังกล่าวพบว่าเวลาตรวจโรคของแพทย์ทั่วไปนั้นสูงขึ้น โดยเฉลี่ยอยู่ที่คนละไม่เกิน 20 นาที ซึ่งเพิ่มขึ้นมาประมาณหนึ่งนาที

ประธานวิทยาลัยศึกษาแพทย์ทั่วไปฯ นายแพทย์ไมเคิล ไรท์ กล่าวว่าตัวเลขนี้ไม่น่าแปลกใจสักเท่าไหร่

“รายงานปีนี้มีข้อมูลใหม่ที่สำคัญหลายเรื่อง อย่างเช่นร้อยละ 99 ของคนไข้ชาวออสเตรเลียบอกว่าพวกเขาพบแพทย์ทั่วไปได้เลยเมื่อจำเป็น แต่เราเห็นว่าโรคที่พวกเขาเข้ามาพบแพทย์ทั่วไปนั้นเริ่มซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ"

แพทย์หญิงรัมยาก็กล่าวไว้ตรงกันว่าโรคในกลุ่มจิตเวชนั้นเป็นกลุ่มหลักที่รักษาและวินิจฉัยได้ยาก

นายแพทย์ไมเคิลเผยว่าแพทย์ทั่วไปกว่าร้อยละ 71 ตอบแบบสำรวจว่าคนไข้มาพบแพทย์ด้วยโรคกลุ่มจิตเวชมากที่สุด โดยเฉพาะโรควิตกกังวลและโรคซึมเศร้า ซึ่งเพิ่มขึ้นถึงร้อยละสิบตั้งแต่ที่เริ่มทำแบบสำรวจในปี 2017

แต่อัตราของโรคเรื้อรังและปัญหาสุขภาพต่างๆ ก็สูงขึ้นเมื่อคนไข้อายุเยอะขึ้นเช่นกัน
แม้ว่ารายงานสุขภาพแห่งชาติจะเจอข่าวดีว่าคนไข้เข้าถึงแพทย์ทั่วไปได้มากขึ้น แต่รายงานดังกล่าวระบุว่าคนไข้ที่ไม่ไปพบแพทย์ตามนัดเพราะค่ารักษานั้นมีจำนวนมากขึ้น

แม้ว่าจะมีแพทย์ทั่วไปเพียงร้อยละ 12 เท่านั้นที่บอกว่าพวกเขาคิดค่ารักษาแบบเหมาจ่าย (Bulk Billing) ให้คนไข้ได้ แต่รายงานก็พบว่าจำนวนของคนไข้ที่ต้องรอคิวพบแพทย์นานกว่าปกตินั้นกลับลดลงจากปีที่แล้ว

แพทย์หญิงรัมยากล่าวว่าการเข้าถึงแพทย์ทั่วไปนั้นยังสำคัญเพราะจะช่วยเลี่ยงไม่ให้คนไข้ป่วยหนักในภายหลัง

"เวลาคนไข้สามารถมาพบแพทย์ทั่วไป มาปรึกษาเรา นั่นแปลว่าพวกเขาจะไม่ป่วยหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาล ยังไงมาหาแพทย์ทั่วไปก็ดีกว่าต้องไปโรงพยาบาล"

แต่ว่าโรคที่แพทย์ทั่วไปต้องรักษาในขณะนี้กลับซับซ้อนมากกว่าเดิม

รายงานสุขภาพแห่งชาติกล่าวว่าแพทย์ทั่วไปกว่าร้อยละ 86 กำลังรักษาโรคที่แพทย์เฉพาะทางควรจะเป็นเจ้าของไข้ นอกจากนี้โรคในกลุ่มจิตเวชที่พบมากแล้ว ก็ยังมีโรคเบาหวานและโรคหัวใจที่แพทย์ทั่วไปพบมากที่สุด

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอิสระ และอดีตแพทย์ทั่วไป โซฟี สแกมปส์ ชี้ว่าปัญหาคนไข้เข้าไม่ถึงแพทย์เฉพาะทางทำให้แพทย์ทั่วไปต้องทำหน้าที่แทน

แพทย์หญิงโซฟีบอกว่าการพบแพทย์ทั่วไปนั้นสำคัญมากเพราะการป้องกันและรักษาโรคแต่เนิ่นๆ เป็นการรักษาที่ดีที่สุด
เรารู้ว่าโรคที่เป็นภาระของสาธารณสุขออสเตรเลียกว่าร้อยละ 40 นั้นเป็นโรคที่ป้องกันได้ และแพทย์ทั่วไปนี่เองที่จะมอบเวชศาสตร์ป้องกันให้คนไข้ได้ดีที่สุด แต่ในออสเตรเลียเรากลับลงทุนเรื่องเวชศาสตร์ป้องกันเพียงแค่ร้อยละสองของงบสาธารณสุขเท่านั้น นับว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศที่มีรายได้พอๆ กับเรา
นายแพทย์ไมเคิลเสนอว่าต้องเพิ่มงบให้ประกันสุขภาพเมดิแคร์เพื่อแก้ปัญหานี้

“เราต้องแก้งบประมาณของเมดิแคร์เพื่อให้คนไข้ทำนัดกับแพทย์ทั่วไปได้นานขึ้น เรารู้ว่าเมื่อคนไข้มีเวลาพบแพทย์ได้ครั้งละนานขึ้นนั้นสำคัญกับสุขภาพของพวกเขา แล้วก็สำคัญกับชุมชนด้วย”

รัฐบาลพรรคแรงงานได้หาเสียงช่วงเลือกตั้งไว้ว่าจะเพิ่มงบประมาณให้ระบบคิดค่ารักษาแบบเหมาจ่าย (Bulk Billing) ภายในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ นอกจากนี้รัฐบาลจะพิจารณาเงื่อนไขและคุณสมบัติของแผนรักษาโรคจิตเวชที่รวมอยู่ในประกันสุขภาพเมดิแคร์เช่นกัน

แผนดังกล่าวมุุ่งปรับปรุงระบบนัดหมายแพทย์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และลดภาระงานด้านธุรการที่แพทย์ทั่วไปต้องรับผิดชอบ แต่กระนั้นนายแพทย์ไมเคิลคิดว่าวิธีแก้ปัญหานี้ยังไม่เพียงพอ

“แพทย์โรคทั่วไปทำงานกันหนักมาก พวกเราได้รับงบเท่าเดิมมาสิบปีแล้ว แม้ว่าโรคที่เรารักษาจะซับซ้อนมากขึ้น และยังมีงานธุรการที่เยอะขึ้นด้วย”

รายงานสุขภาพแห่งชาติยังตรวจสอบปัญหาการเลือกปฏิบัติในสาธารณสุขอีกด้วย โดยระบุว่าในช่วงปีที่ผ่านมา แพทย์ทั่วไปกว่าหนึ่งในสามกล่าวว่าพวกเขาเคยเห็นคนไข้โดนเหยียดเชื้อชาติขณะเข้ารับการรักษา

และแพทย์ทั่วไปถึงร้อยละ 20 ระบุว่าพวกเขาเคยโดนเหยียดเชื้อชาติโดยคนไข้ของตัวเอง

แพทย์หญิงแคเรน นิโคลส์ ประธานสภาสุขภาพชนพื้นเมืองและชาวเกาะช่องแคบเทอเรสของวิทยาลัยศึกษาแพทย์ทั่วไปฯ กล่าวว่าปัญหาการเหยียดเชื้อชาตินั้นมีผลกระทบตามมาที่รุนแรง
คนไข้อาจมีแนวโน้มหลีกเลี่ยงไม่มาพบแพทย์ หรือพวกเขาอาจจะไม่เข้ารับการรักษาไปเลย พวกเขาอาจจะเข้าใจว่าถ้าหากไปพบแพทย์เมื่อไหร่พวกเขาจะโดนเหยียดเชื้อชาติเมื่อนั้น เวลาที่ตกอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียดแบบนั้น ร่างกายคนเราอาจจะตอบสนองด้วยภาวะสู้หรือหนี (fight or flight) ซึ่งเพิ่มความดันโลหิตและอัตราการเต้นหัวใจให้สูงขึ้น นำไปสู่โรคเรื้อรังต่างๆ ได้
วิทยาลัยศึกษาแพทย์ทั่วไปฯ เริ่มลงมือแก้ปัญหาการเลือกปฏิบัติในสาธารณสุขแล้ว รวมถึงวางแผนอบรมเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับชนพื้นเมืองและชาวเกาะช่องแคบทอเรสให้กับเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์

นายแพทย์ไมเคิลยอมรับว่าวิทยาลัยศึกษาแพทย์ทั่วไปฯ ทราบดีว่ายังมีปัญหาอีกมากที่ต้องแก้ต่อไป

“หลายปีที่ผ่านมาเราถกเถียงกันเรื่องเหยียดเชื้อชาติว่าปัญหานี้สร้างผลกระทบยังไงบ้าง ในที่สุดเราก็ได้เห็นการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมที่เราเฝ้ารอมานาน เรายินดีที่ปัญหานี้ได้รับการสะสางสักที”


Share

Recommended for you

Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand