ประกันบ้านและทรัพย์สินในออสเตรเลียทำงานอย่างไร?

Australia Explained: Home Insurance

จากรายงานของสถาบันนักคณิตศาสตร์ประกันภัย (Actuaries Institute) ในเดือนมีนาคม ปี 2024 พบว่า 15% ของครัวเรือนในออสเตรเลียประสบภาวะความเครียดด้านความสามารถในการจ่ายเบี้ยประกันบ้าน โดยเบี้ยประกันอาจสูงกว่ารายได้ 4 สัปดาห์ของครอบครัว Source: Moment RF / Traceydee Photography/Getty Images

หลายครัวเรือนคาดหวังว่าจะพึ่งพาบริษัทประกันภัยได้ในยามเกิดปัญหา แต่ในขณะเดียวกัน มันก็เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญบางคนยังรู้สึกว่ายากต่อการทำความเข้าใจ ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของบ้านหรือผู้เช่า การเข้าใจระดับความคุ้มครองของตนเองล้วนช่วยให้คุณตัดสินใจในฐานะผู้บริโภคได้ดีขึ้น


ประเด็นสำคัญ
  • ตรวจสอบเสมอว่าประกันของคุณครอบคลุมและไม่ครอบคลุมอะไร โดยอิงจากความเสี่ยงต่อบ้านและทรัพย์สินของคุณ
  • น้ำท่วมสามารถเกิดขึ้นได้หลายรูปแบบ และไม่ใช่ทุกประเภทที่จะอยู่ในความคุ้มครองของกรมธรรม์ที่คุณเลือก
  • ขอใบเสนอราคาจากบริษัทประกันหลายแห่งเมื่อซื้อหรือจะต่ออายุประกันบ้านและทรัพย์สิน
ประกันบ้านมี 2 ประเภทหลัก ได้แก่ ประกันตัวบ้าน (Building insurance) และ ประกันทรัพย์สินภายในบ้าน (Contents insurance)

“ถ้าคุณเป็นเจ้าของบ้านเอง หรือธนาคารถือกรรมสิทธิ์บ้านของคุณ (กรณีบ้านยังผ่อนไม่หมด) โดยทั่วไปควรมีทั้งสองประเภท แต่ถ้าคุณเช่าบ้าน ก็แค่ทำประกันทรัพย์สินก็พอ” โจดี เบิร์ด (Jodi Bird) ผู้เชี่ยวชาญด้านประกันภัยจากองค์กร Choice กล่าว

ทรัพย์สิน อาจหมายถึง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องกีฬา เครื่องประดับ อุปกรณ์การแพทย์ เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ในครัว หรือของตกทอดในครอบครัว

ประกันทรัพย์สินจะช่วยให้คุณสามารถซ่อมแซมหรือทดแทนสิ่งของที่เสียหายหรือสูญหายจากเหตุการณ์ที่อยู่ในการคุ้มครอง

“เครื่องคำนวณของบริษัทประกันจะช่วยให้คุณประเมินมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดได้” เบิร์ดอธิบาย
Australia Explained: Home Insurance
Make an inventory of contents you want ensured and go through it ticking off each item estimating their worth. Credit: Eleganza/Getty Images

ตรวจสอบความคุ้มครองของคุณเสมอ

Product Disclosure Statement (PDS) เป็นเอกสารที่ระบุสิ่งที่กรมธรรม์ครอบคลุมและไม่ครอบคลุม

ข้อยกเว้นหนึ่งที่หลายคนมองข้ามคือ การปล่อยบ้านไว้โดยไม่มีคนอยู่นานเกินไป

“ถ้าคุณไปเที่ยวพักผ่อนนาน หรือย้ายออกจากบ้านขณะปรับปรุงบ้าน คุณต้องแจ้งบริษัทประกัน เพราะอาจไม่ได้รับความคุ้มครองหากหายไปนานเกินไป" เบิร์ดเตือน

โดยทั่วไป ประกันบ้านจะครอบคลุมเหตุการณ์อย่างการโจรกรรม ไฟไหม้ พายุ และน้ำท่วม แต่ควรตรวจสอบเงื่อนไขข้อยกเว้นที่อาจเกี่ยวข้องกับสถานการณ์เฉพาะของคุณ เช่น หากคุณอาศัยอยู่ใกล้ชายฝั่ง ให้ดูว่ากรมธรรม์ของคุณพูดถึงความเสียหายจากน้ำทะเลไว้อย่างไร

“เช่น ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นจากพายุ คลื่นพายุ หรือคลื่นทะเลสูง สิ่งเหล่านี้มักไม่อยู่ในความคุ้มครอง" เบิร์ดกล่าว

อีกหนึ่งข้อยกเว้นที่พบบ่อยคือเหตุการณ์ไฟไหม้

“คุณอาจไม่ได้รับความคุ้มครองหากของไหม้แต่ไม่มีเปลวไฟเกิดขึ้น เช่น หากคุณเตะฮีตเตอร์หล่นแล้วมันทำพรมไหม้โดยไม่มีไฟลุก พรมของคุณจะไม่ได้รับความคุ้มครอง”
Australia Explained: Home Insurance
Most home insurance policies will cover you for animal damage, but not for damage caused by your pet. Credit: sturti/Getty Images

สำหรับผู้ที่ซื้อบ้าน

โดยทั่วไปแล้ว การซื้อบ้านมักจะต้องมีประกันบ้าน เพื่อให้ธนาคารอนุมัติสินเชื่อ

แอนดรูว์ ฮอลล์ (Andrew Hall) ซีอีโอของ Insurance Council of Australia แนะนำให้สำรวจและเปรียบเทียบข้อเสนอทางการเงินและความครอบคลุมจากบริษัทประกันภัยหลายแห่งก่อนตัดสินใจ

"เมื่อคุณซื้อบ้านในออสเตรเลีย ประกันของคุณควรครอบคลุมความเสี่ยงที่น่าจะเกิดขึ้นมากที่สุด เช่น หากอยู่ในพื้นที่ที่มีป่าไม้มาก ก็ควรมีประกันไฟป่า” เขากล่าว
Australia Explained: Home Insurance
When it comes to insuring your home, you're insuring for the cost to rebuild the actual building, not the market value of your home, which can be different. Credit: svetikd/Getty Images
ฮอลล์ยังกล่าวอีกว่า “น้ำท่วม” เป็นความท้าทายที่ใหญ่ที่สุด เพราะเป็นภัยที่คาดการณ์ได้และมีค่าเบี้ยสูงที่สุด

เขาแนะนำให้ตรวจสอบกับตัวแทนอสังหาริมทรัพย์และสภาท้องถิ่นเกี่ยวกับความเสี่ยงเรื่องน้ำท่วม แม้บางพื้นที่เช่น บริสเบน อาจมีการแจ้งข้อมูลน้ำท่วม แต่ในหลายพื้นที่ของออสเตรเลียกลับไม่มีข้อมูลนี้
ที่สำคัญคือคุณต้อหาข้อมูลให้ครบถ้วนเกี่ยวกับภัยธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นได้ในพื้นที่ของคุณ
แอนดรูว์ ฮอลล์ กล่าว

รับมือกับเบี้ยประกันที่เพิ่มขึ้น

ทั่วออสเตรเลีย ประมาณ 11% ของบ้านไม่มีประกัน และบางพื้นที่มีอัตราสูงกว่านี้

ทางด้านศาสตราจารย์ พอลล่า จาร์ซาบคอสกี (Paula Jarzabkowski) จากมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับโลกด้านประกันภัยและช่องว่างการคุ้มครองจากภัยพิบัติ กล่าวว่า

"บางคนไม่คิดว่าตนเองเสี่ยง จึงไม่ซื้อประกัน
บางคนเสี่ยงแต่ก็ไม่มีเงินจ่าย เพราะเบี้ยแพงเกินไป
และบางคนอยู่ในพื้นที่เสี่ยงมาก จนบริษัทประกันไม่เสนอกรมธรรม์ให้เลย”
Australia Explained: Home Insurance
Latest ABS data reveal insurance is one the main contributors to rising living cost, due to higher premiums for house and home contents insurance. Credit: PamelaJoeMcFarlane/Getty Images
“คำว่า “ประกันไม่เพียงพอ (Underinsurance)” หมายถึง การมีประกันเพียงบางส่วน เช่น อยู่ในเขตน้ำท่วมแต่มีแค่ประกันโจรกรรม หรืออาจหมายถึง การประกันบ้านหรือทรัพย์สินในวงเงินเดิมทุกปี ทั้งที่ค่าทดแทนเพิ่มขึ้นเพราะเงินเฟ้อ” ศ.จาร์ซาบคอสกี กล่าว

“นั่นแปลว่า คุณมีประกันไม่เพียงพอต่อการซ่อมหรือเปลี่ยนใหม่ในภาวะที่ต้นทุนสูงขึ้น”
Australia Explained: Home Insurance
If you can’t afford insurance for weather events, consider buying basic cover for things like a washing machine breaking down and flooding your floor. Credit: Sollina Images/Getty Images/Tetra images RF
ไม่ว่าคุณจะมีประกันครอบคลุมภัยธรรมชาติหรือไม่ ศ.จาร์ซาบคอสกีแนะนำว่า:
  • หากมีคำเตือนให้อพยพ คุณจะเอาอะไรติดตัวไป?
  • เอกสารสำคัญของคุณมีการสำรองออนไลน์ไว้หรือยัง?
  • คุณทำความสะอาดรางน้ำ ตรวจสอบวาล์วบ้างไหม? สิ่งนี้ช่วยป้องกันน้ำล้นหรือน้ำท่วมย้อนกลับได้
  • คุณดูแลต้นไม้รอบบ้านหรือเปล่า? ต้นไม้ใหญ่ล้มในลมแรงอาจทำบ้านพัง
  • หากอยู่ในพื้นที่เสี่ยงพายุไซโคลน หน้าต่างของคุณมีฝาปิดนิรภัยหรือไม่?
  • หลังคาบ้านของคุณยึดแน่นดีหรือเปล่า?
Australia Explained: Home Insurance
Keeping your gutters clean from leafage can help protect your home in case of flood or fire. Credit: LittleCityLifestylePhotography/Getty Images
สัญญาประกันมักยาวและเต็มไปด้วยศัพท์ที่เข้าใจยาก แต่ควรอ่านและทำความเข้าใจอย่างรอบคอบ

“เราทุกคนมักจะคลิก ‘ตกลง’ โดยไม่ได้อ่านจริง ๆ หรือต่ออายุเพราะรีบ ไม่มีเวลาศึกษา
ประกันคือผลิตภัณฑ์ทางการเงิน หลายคนกลัว แต่เราควรอ่านเงื่อนไข และกล้าถามคำถาม
เพราะคุณจ่ายเงินให้มัน และจะพึ่งมันเมื่อเกิดปัญหากับบ้านคุณ” ศ. จาร์ซาบคอสกี กล่าว
คุณมีสิทธิ์ที่จะถามและได้รับคำอธิบายจนเข้าใจอย่างชัดเจน
ศาสตราจารย์จาร์ซาบคอสกี กล่าว
แม้แต่การต่ออายุประกัน ก็ควรเปรียบเทียบราคาก่อน เพื่อหลีกเลี่ยง 'ค่าปรับจากความภักดี (loyalty penalty) โจดี เบิร์ด กล่าว

“เรามักคิดว่าการภักดีจะทำให้เราได้ส่วนลด แต่นั่นไม่เป็นความจริงกับบริษัทประกัน ถ้าคุณแค่ต่ออายุโดยไม่เปรียบเทียบราคาก่อน พวกเขาอาจคิดเบี้ยแพงกว่าที่เสนอให้ลูกค้าใหม่ด้วยซ้ำ”
Australia Explained: Home Insurance
If you are having trouble paying your insurance premium, seek quotes from different providers and ask your insurer for options to reduce your premium. Credit: ToucanStudios/Getty Images
คุณสามารถโทรหาบริษัทประกันของคุณ ถามว่าคุณได้รับราคาแบบเดียวกับลูกค้าใหม่หรือไม่ และแจ้งให้พวกเขารู้ว่าคุณพร้อมจะเปลี่ยนหากไม่ได้ข้อเสนอที่คุ้มค่า

การศึกษาข้อมูลล่วงหน้า ทำให้คุณมีอำนาจต่อรองมากขึ้น

โดย เบิร์ด แนะนำว่า หากคุณรู้ว่าเบี้ยประกันของบริษัทอื่นเสนอเท่าไหร่ คุณจะสามารถเจรจาได้ดีขึ้น

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัญหาทั่วไปเกี่ยวกับประกันบ้านและทรัพย์สิน เยี่ยมชมเว็บไซต์ของ ศูนย์สิทธิทางการเงิน (Financial Rights Legal Centre)

หากคุณมีปัญหาหนี้สินและต้องการความช่วยเหลือ สามารถโทรติดต่อ สายด่วนหนี้แห่งชาติ (National Debt Helpline) ที่เบอร์ 1800 007 007 เพื่อพูดคุยกับที่ปรึกษาทางการเงิน
Australia Explained เป็นพอดคาสต์ข้อมูลและความรู้เกี่ยวกับการปรับตัวให้เข้ากับชีวิตใหม่ในออสเตรเลีย

คุณสามารถส่งคำถามหรือไอเดียหัวข้อที่น่าสนใจมาได้ที่ australiaexplained@sbs.com.au

ติดตามเอสบีเอส ไทย ได้อีกทาง เว็บไซต์ | เฟซบุ๊ก | อินสตาแกรม

ฟังพอดคาสต์ของเอสบีเอส ไทยผ่านแอปพลิเคชัน SBS Audio ดาวน์โหลดจาก Apple Store หรือจาก Google Play  

Share
Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand