The Big Brief: ไทย–กัมพูชาและทรัมป์ร่วมลงนามข้อตกลงสันติภาพที่มาเลเซีย

ALC THAI THE BIG BRIEF - BSP HEADER (3).jpg

ไทย–กัมพูชาและทรัมป์ร่วมลงนามข้อตกลงสันติภาพที่มาเลเซีย Credit: MOHD RASFAN/AFP

ไทย–กัมพูชาและทรัมป์ร่วมลงนามข้อตกลงสันติภาพที่มาเลเซีย ขณะติมอร์-เลสเตเข้าร่วมเป็นสมาชิกอาเซียนประเทศที่ 11


กัมพูชาและไทยลงนามข้อตกลงสันติภาพ โดยมีประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริการ่วมลงนามด้วย โดยที่ข้อตกลงสันติภาพฉบับสมบูรณ์ระหว่างสองประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงอยู่ระหว่างการจัดทำ

ประธานาธิบดีทรัมป์ร่วมลงนามในข้อตกลงหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชาในประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นจุดหมายแรกของการเยือนเอเชีย โดยจะปิดท้ายด้วยการประชุมหารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน

ข้อตกลงฉบับนี้ลงนามโดย นายกรัฐมนตรีอนุทิน ชาญวีรกูล ของไทย และ นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา พร้อมด้วย ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ และนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซีย ภายหลังเหตุปะทะรุนแรงบริเวณชายแดนเมื่อช่วงต้นปี

การสู้รบซึ่งยืดเยื้อถึงห้าวัน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 48 คน และประชาชนราว 300,000 คนต้องอพยพหนีภัยชั่วคราว ถือเป็นเหตุปะทะที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ร่วมสมัยของทั้งสองประเทศ

ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงเบื้องต้นเมื่อปลายเดือนกรกฎาคม โดยมีทรัมป์มีบทบาทสำคัญในการเจรจาไกล่เกลี่ย ขณะนี้พื้นที่ชายแดนส่วนใหญ่กลับมาสงบ แม้จะยังคงมีการกล่าวหาเรื่องละเมิดข้อตกลงหยุดยิงเป็นระยะ ซึ่งข้อตกลงฉบับใหม่มุ่งหวังจะยุติการกระทำดังกล่าวอย่างถาวร

ระหว่างพิธีลงนาม ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวชื่นชมการตัดสินใจของทั้งสองประเทศ โดยระบุว่าเป็น “ก้าวสำคัญทางประวัติศาสตร์ (monumental step)” และกล่าวแสดงความยินดีกับนายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล ของไทย และ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ชี้ว่า ข้อตกลงสันติภาพฉบับสมบูรณ์ระหว่างสองประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังไม่แล้วเสร็จ และยังต้องมีการเจรจาต่อไป

รายละเอียดของข้อตกลงหยุดยิงฉบับใหม่

ภายใต้ ข้อตกลงหยุดยิงที่ปรับขยายจากเดิม (expanded ceasefire deal) ทั้งสองประเทศได้ออกแถลงการณ์ร่วม โดยให้คำมั่นว่าจะจัดตั้ง ทีมผู้สังเกตการณ์จากอาเซียน (ASEAN observer team) ลดระดับกำลังทางทหาร และถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ชายแดน

นอกจากนี้ ไทยยังตกลงที่จะ ปล่อยตัวเชลยศึกชาวกัมพูชาจำนวน 18 คน หากมาตรการดังกล่าวถูกดำเนินการตามข้อตกลง

ทั้งสองประเทศยังเห็นพ้องที่จะ ร่วมมือกันกำจัดทุ่นระเบิดบริเวณชายแดน ซึ่งเป็นชนวนเหตุของการสู้รบ หลังจากทหารไทยนายหนึ่งถูกทุ่นระเบิดจนบาดเจ็บสาหัสระหว่างการลาดตระเวน ไทยกล่าวหากัมพูชาว่าได้วางทุ่นระเบิดใหม่ในพื้นที่ แต่กัมพูชาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยย้ำว่ากำลังดำเนินการเคลียร์ทุ่นระเบิดเก่ามากกว่า
นายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล กล่าวว่า แถลงการณ์ฉบับนี้สะท้อนถึงเจตจำนงร่วมกันของทั้งสองประเทศในการแก้ไขความขัดแย้งด้วยสันติวิธี พร้อมย้ำถึง “การเคารพอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของกันและกันอย่างเต็มที่”

ด้านนายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต ของกัมพูชา ระบุว่า ข้อตกลงนี้แสดงให้เห็นว่าความขัดแย้งทุกอย่างสามารถยุติได้ด้วยสันติวิธี “ไม่ว่าจะยากหรือซับซ้อนเพียงใดก็ตาม”

นักวิเคราะห์มองว่า ข้อตกลงหยุดยิงครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่ง “ความสำเร็จทางการทูต” ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งรัฐบาลของเขาได้มีบทบาทในการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งหลายพื้นที่ในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็น ฉนวนกาซา ความขัดแย้งระหว่างอาร์เมเนียและอาเซอร์ไบจาน รวมถึงเหตุปะทะสั้น ๆ ระหว่างอินเดียกับปากีสถาน ขณะเดียวกัน ทรัมป์ยังคงพยายามผลักดันให้เกิดการยุติสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน แม้เจ้าตัวยอมรับว่าภารกิจดังกล่าว “ยากกว่าที่คาดไว้”

ติมอร์-เลสเต เป็นสมาชิกอาเซียนประเทศที่ 11 อย่างเป็นทางการ

ติมอร์-เลสเต หรือที่รู้จักกันในชื่อ ติมอร์ตะวันออก ได้รับการรับเข้าเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่จัดขึ้น ณ ประเทศมาเลเซีย

การบูรณาการประเทศที่เพิ่งตั้งและยากจนที่สุดในภูมิภาค และมีประชากรราว 1.4 ล้านคน ถูกมองว่าเป็น ก้าวสำคัญเชิงสัญลักษณ์ของความครอบคลุมในภูมิภาคอาเซียน

ระหว่างพิธีการอย่างเป็นทางการที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ธงชาติของติมอร์-เลสเตได้ถูกชูขึ้นเคียงข้างกับธงชาติของอีก 10 ประเทศสมาชิกบนเวที

 นายกรัฐมนตรี ชานานา กุสเมา กล่าวต่อที่ประชุมว่า

“วันนี้คือวันที่ประวัติศาสตร์ได้ถูกจารึก สำหรับประชาชนติมอร์-เลสเต นี่ไม่ใช่เพียงความฝันที่เป็นจริง แต่คือการยืนยันอย่างทรงพลังถึงเส้นทางการเดินทางของเรา”

ติมอร์-เลสเตเคยเป็นอาณานิคมของโปรตุเกสยาวนานกว่า 400 ปี ก่อนจะถูกรุกรานโดยอินโดนีเซียในปี 1975
การเข้าร่วมเป็นสมาชิกอาเซียนอย่างเป็นทางการ ทำให้ ติมอร์-เลสเต ได้รับสิทธิ์เข้าถึง ข้อตกลงการค้าเสรี การลงทุน และตลาดระดับภูมิภาคที่กว้างขึ้น ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการกระจายโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศ ที่พึ่งพารายได้จากน้ำมันและก๊าซมาอย่างยาวนาน

ประเทศเล็กๆ แห่งนี้ยังคงเผชิญความท้าทายด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยมีอัตราการว่างงานและภาวะทุพโภชนาการในระดับสูง ขณะที่ 42% ของประชากรอยู่ต่ำกว่าเส้นความยากจน และเกือบ สองในสามของประชากรมีอายุต่ำกว่า 30 ปี ทำให้การสร้างงานสำหรับเยาวชนกลายเป็นวาระแห่งชาติ

แม้รายได้หลักของรัฐบาลจะมาจากอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ แต่แหล่งทรัพยากรเหล่านี้กำลังร่อยหรอ ทำให้ประเทศต้องเร่งหาทางปรับตัวและกระจายรายได้สู่ภาคส่วนอื่น ๆ

นายกรัฐมนตรี ชานานา กุสเมา กล่าวระหว่างพิธีรับเข้าเป็นสมาชิกว่า

“สำหรับเรา การเริ่มต้นครั้งใหม่นี้เปิดโอกาสอันยิ่งใหญ่ในด้านการค้า การลงทุน การศึกษา และเศรษฐกิจดิจิทัล เราพร้อมที่จะเรียนรู้ สร้างสรรค์ และยึดมั่นในธรรมาภิบาล”

เขากล่าวเพิ่มเติมว่า

“นี่ไม่ใช่จุดสิ้นสุดของการเดินทาง แต่คือจุดเริ่มต้นของบทใหม่ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับติมอร์-เลสเต”

ฟังสรุปเรื่องนี้ได้ที่นี่:

ติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่ เว็บไซต์ หรือ Facebook และ Instagram

Share
Follow SBS Thai

Download our apps
SBS Audio
SBS On Demand

Listen to our podcasts
Independent news and stories connecting you to life in Australia and Thai-speaking Australians.
Understand the quirky parts of Aussie life.
Get the latest with our exclusive in-language podcasts on your favourite podcast apps.

Watch on SBS
Thai News

Thai News

Watch in onDemand