จำนวนผู้ที่เดินทางเข้าออสเตรเลียผ่านโครงการย้ายถิ่นฐานถาวรจะยังคงเดิม โดยรัฐบาลยังคงกำหนดจำนวนเพดานสูงสุดไว้ที่ 185,000 คนต่อปี
เรื่องนี้ได้รับการยืนยันเมื่อเช้าวันอังคาร ว่าจำนวนเพดานการย้ายถิ่นในปี 2025-2026 จะยังคงอยู่ในระดับและรูปแบบเดียวกับปี 2024-2025 โดยมุ่งเน้นไปที่การย้ายถิ่นฐานของผู้มีทักษะที่ต้องการ
รัฐบาลกล่าวว่าได้หารือกับรัฐและเขตปกครองต่างๆ แล้ว ซึ่งแนะนำให้คงขนาดและองค์ประกอบเดิมไว้
มีรายงานว่ากระทรวงกิจการภายในได้ดำเนินการพิจารณาวีซ่าตามระดับเพดานของปีที่แล้ว ดังนั้น การดำเนินงานของโครงการฯจึงไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ตามข้อมูลของรัฐบาล
เรื่องที่เกี่ยวข้อง

ผู้ประท้วงอ้างผู้อพยพย้ายถิ่นทำลายชาติ แล้วนักวิชาการว่าอย่างไร?
โครงการย้ายถิ่นฐานและการรับเข้าของรัฐบาลเป็นที่มาของการประท้วง โดยมีประชาชนหลายพันคนเดินขบวนทั่วประเทศในช่วงสุดสัปดาห์ เพื่อประท้วงสิ่งที่พวกเขามองว่าเป็นระดับการอพยพเข้าเมืองที่สูง
ข้อมูลล่าสุดจากสำนักงานสถิติออสเตรเลีย ระบุว่า ออสเตรเลียมียอดผู้อพยพเข้าประเทศสุทธิ 446,000 คน ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา
กลุ่มผู้อพยพที่เดินทางมาถึงมากที่สุดคือวีซ่านักศึกษาชั่วคราว โดยมีจำนวน 207,000 คน
ในเดือนสิงหาคม เจสัน แคลร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ประกาศระดับเพดานจำนวนนักศึกษาต่างชาติในยุทธศาสตร์ระดับชาติ ในปี 2026 โดยคงไว้ที่ 295,000 คน เพื่อบริหารจัดการการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่าง "ยั่งยืน"
อนาคตของนักเรียนต่างชาติในออสเตรเลียภายใต้นโยบายใหม่
เอสบีเอสไทยได้พูดคุยเรื่องนี้กับ เกมส์ วิทวัส บุษราคัมวงษ์ ผู้บริหารบริษัทเอเจนท์นักเรียน (Student Agent) ในออสเตรเลีย ถึงข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มและนโยบายที่ส่งผลกระทบต่อนักเรียนต่างชาติในออสเตรเลีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักเรียนไทย
ในแง่ของนโยบายรัฐบาลกับการรับนักศึกษาต่างชาติปี 2026 เกมส์มองว่ามีสัญญาณที่ดีขึ้น หลังจาก รัฐบาลออสเตรเลียจะยกเลิกข้อจํากัด (Cap) การรับนักศึกษาต่างชาติในปี 2026 และเปลี่ยนเป็น "Threshold" สําหรับแต่ละสถาบัน ซึ่งหมายความว่าเมื่อสถาบันถึงเกณฑ์ที่กําหนด วีซ่าของนักเรียนอาจใช้เวลานานขึ้น แต่ก็เป็นสัญญาณที่รัฐบาลต้องการส่งเสริมภาคการศึกษาอีกครั้ง
นอกจากนี้ยังมี ความร่วมมือกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรัฐบาลจะมุ่งเน้นความร่วมมือกับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (รวมถึงประเทศไทย) ตามเอกสาร "Investment Australia Southeast Asia Economic Strategy to 2040" โดยมีเป้าหมายเพื่อ:
- ปรับปรุงระบบวีซ่าให้ง่ายขึ้น (facilitated mobility)
- ส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและภาคส่วนการศึกษา
- ภาคส่วนที่ออสเตรเลียสนใจร่วมมือกับไทยเป็นพิเศษ ได้แก่ การศึกษาและทักษะ (โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว, โรงแรม, IT, Cybersecurity, ก่อสร้าง และการผลิตอาหาร) รวมถึงวัฒนธรรม, อาหาร, พลังงานสีเขียว และเศรษฐกิจดิจิทัล
สถานการณ์ของนักเรียนไทยและปัจจัยที่ท้าทาย
เกมส์ระบุว่า จํานวนนักเรียนไทยที่มาศึกษาต่อในออสเตรเลียได้ลดลงจากอันดับ 6 จนหลุดจาก Top 10 โดยมีสาเหตุหลักมาจากความไม่แน่นอนของนโยบายวีซ่าในช่วงที่ผ่านมา ค่าครองชีพที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง (รวมถึงค่าที่พัก) ข้อจํากัดวีซ่าที่เข้มงวดขึ้น
ปัญหาการขอวีซ่าและการอนุมัติ
ความล่าช้าและความไม่แน่นอนทำผู้ยื่นวีซ่านักเรียนหลายคนถอดใจ ซึ่งประเด็นนี้เกมส์มองว่า นักเรียนต่างชาติ โดยเฉพาะจากจีนและอินเดีย เผชิญปัญหาการรอวีซ่านานและมีความไม่แน่นอนสูง โดยที่สถิติการดําเนินการวีซ่า (ข้อมูลถึง 30 มิ.ย. 2025) การยื่นภายในออสเตรเลีย (Onshore) ใช้เวลาเฉลี่ย 6 เดือน ส่วนการยื่นนอกออสเตรเลีย (Offshore) ใช้เวลาเฉลี่ย 21 วัน (เป็นค่าเฉลี่ย อาจมีทั้งเร็วและช้า)
ส่วนนักเรียนจากไทย เกมส์กล่าวว่า หากเตรียมเอกสารดีและมีประวัติที่ดี การขอวีซ่านอกออสเตรเลียไม่เป็นปัญหาใหญ่ แต่อัตราการอนุมัติวีซ่าสําหรับการเรียนภาษา (ELICOS) จาก offshore อาจไม่สูงเท่า Higher Education ซึ่งมีอัตราการอนุมัติสูงทั้ง onshore และ offshore
ค่าครองชีพและที่อยู่อาศัย ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญ
เกมส์มองว่าตลาดเช่าที่พักผ่านจุดที่แย่ที่สุดมาแล้วและกําลังค่อยๆ ดีขึ้น แต่ราคาไม่น่าจะกลับไปถูกเท่าเดิมก่อนที่จะพุ่งสูงขึ้นมาก
ส่วนเรื่องค่าครองชีพทั่วไป ยังคงสูง หากทํางานได้ตามกฎหมายโดยได้ค่าแรงขั้นต่ำ อาจเพียงพอสําหรับค่ากินอยู่แต่ไม่เหลือเก็บมากนัก ออสเตรเลียในปัจจุบันจึงอาจไม่ใช่จุดหมายหลักสําหรับนักเรียนที่ต้องการมา "เก็บเงิน"
โอกาสในตลาดแรงงานและการย้ายถิ่นฐานหลังเรียนจบ
เกมส์คาดว่าตลาดแรงงานจะดีขึ้นในภาพรวม โดยเฉพาะสาขาที่เป็นที่ต้องการอย่างก่อสร้าง สาธารณสุข (Healthcare), การศึกษา (Education)
เรื่องที่เกี่ยวข้อง

ออสเตรเลียได้ยกเลิกข้อจำกัดจำนวนนักศึกษาต่างชาติแล้ว
ส่วนข้อควรระวังสำหรับใครที่กำลงเรียนจบ การได้งาน และการย้ายถิ่นฐาน (PR) เกมส์บอกว่าไม่ใช่เส้นทางที่ราบรื่นและเชื่อมโยงกันโดยตรงเสมอไป เพราะการเติบโตของงานตามอุตสาหกรรม ในปี 2025 5 ได้แก่
- Healthcare & Social Assistance
- Education & Training
- Public Admin & Safety
- Professional, Scientific & Technical Services
- Financial & Insurance Services
ส่วนอาชีพที่ได้ PR สูงสุด (2023-24)ได้แก่พยาบาล นักบัญชี โปรแกรมเมอร์ เชฟ วิศวกร (อุตสาหกรรม, เครื่องกล, การผลิต)
อุปสรรคสําหรับผู้อพยพ (โดยเฉพาะจากประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก) เกมส์มองว่าคือ ระดับวุฒิ/ประสบการณ์ อายุ ทักษะภาษาอังกฤษ และประสบการณ์ในออสเตรเลีย (ยิ่งอยู่นาน ยิ่งมีโอกาสได้งานมากขึ้น)
ดังนั้นสิ่งสําคัญคือการวางแผน นักเรียนควรวางแผนเส้นทาง (pathway) ตั้งแต่เริ่มต้นอย่างชัดเจน ทั้งเรื่องการเรียน การทํางาน และโอกาสในการย้ายถิ่นฐานในอนาคต
ออสเตรเลียในฐานะจุดหมายปลายทางการศึกษา
เกมส์วิเคราะห์ว่ามีแนวโน้มสดใสขึ้น ออสเตรเลียยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและสถานการณ์ดีขึ้นจากช่วงก่อนหน้าที่นโยบายมีความผันผวนสูง
โดยมีข้อได้เปรียบคือ มีระบบการศึกษาที่ดี และมีข้อได้เปรียบด้านที่ตั้งสําหรับนักเรียนจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนความท้าทายก็ลดลง ซึ่งคาดว่านโยบายการย้ายถิ่นฐานจะมีความนิ่งขึ้นหลังจากมีการแกว่งตัวอย่างมากในช่วงโควิดและหลังโควิด