ไทยและกัมพูชาประกาศหยุดยิง 'ทันที'

การหยุดยิงเกิดขึ้นหลังจากการเจรจาเรื่องพรมแดนเป็นเวลาสามวัน ซึ่งประกาศหลังจากการประชุมของรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน

ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะอนุญาตให้พลเรือนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชายแดนเดินทางกลับบ้านโดยเร็วที่สุด Source: AAP / AP/ Agence Kampuchea Press (AKP)

ฟังพอดคาสต์ในเรื่องอื่นๆ ของเราได้ที่นี่

ไทยและกัมพูชาตกลงหยุดยิง "ทันที" ในวันเสาร์ ทั้งสองประเทศระบุในแถลงการณ์ร่วม โดยให้คำมั่นว่าจะยุติการปะทะกันตามแนวชายแดนที่รุนแรงซึ่งกินเวลานานหลายสัปดาห์

จากการสู้รบด้วยปืนใหญ่ รถถัง โดรน และเครื่องบินรบเป็นเวลาสามสัปดาห์ ตามสถิติอย่างเป็นทางการ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 47 คน และพลัดถิ่นมากกว่าหนึ่งล้านคน

ความขัดแย้งได้ลุกลามไปยังเกือบทุกจังหวัดตามแนวชายแดนของทั้งสองฝ่าย ทำลายข้อตกลงหยุดยิงก่อนหน้านี้ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ อ้างว่าเป็นผลงานของตน

"ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะหยุดยิงทันทีหลังจากเวลาที่ลงนามในแถลงการณ์ร่วมฉบับนี้ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 12.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ของวันที่ 27 ธันวาคม 2025" แถลงการณ์ที่ลงนามโดยรัฐมนตรีกลาโหมของทั้งสองประเทศระบุ

ข้อตกลงหยุดยิงนี้ครอบคลุม "อาวุธทุกประเภท รวมถึงการโจมตีพลเรือน วัตถุพลเรือน และโครงสร้างพื้นฐาน และเป้าหมายทางทหารของทั้งสองฝ่าย ในทุกกรณีและทุกพื้นที่" แถลงการณ์ระบุ

พวกเขายังตกลงที่จะร่วมมือกันในด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิดและการต่อต้านอาชญากรรมทางไซเบอร์

การหยุดยิงเกิดขึ้นหลังจากการเจรจาชายแดนสามวัน ซึ่งประกาศหลังจากการประชุมด่วนของรัฐมนตรีต่างประเทศจากสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ซึ่งทั้งกัมพูชาและไทยเป็นสมาชิก

สหรัฐอเมริกา จีน และมาเลเซียก็ผลักดันให้ประเทศเพื่อนบ้านทั้งสองยุติการสู้รบเช่นกัน

ความขัดแย้งมีต้นกำเนิดมาจากข้อพิพาทเรื่องดินแดนเกี่ยวกับการกำหนดเขตแดนในยุคอาณานิคมของพรมแดนยาว 800 กิโลเมตร ซึ่งมีวัดโบราณที่ทั้งสองฝ่ายอ้างสิทธิ์

การสู้รบห้าวันระหว่างกัมพูชาและไทยในเดือนกรกฎาคมทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบคน ก่อนที่สหรัฐฯ จีน และมาเลเซียจะไกล่เกลี่ยให้มีการหยุดยิง แต่ก็ถูกละเมิดภายในไม่กี่เดือนต่อมา

ทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวโทษอีกฝ่ายว่าเป็นผู้เริ่มต้นการสู้รบครั้งใหม่ในเดือนนี้ และต่างกล่าวหาซึ่งกันและกันว่าโจมตีพลเรือน

เจ้าหน้าที่ระบุว่า ทหารไทยอย่างน้อย 25 นาย และพลเรือนไทย 1 คน เสียชีวิตในการปะทะกันรอบล่าสุด

กัมพูชา ซึ่งมีอาวุธและงบประมาณน้อยกว่ากองทัพของไทย กล่าวว่าพลเรือนเสียชีวิต 21 คน แต่ไม่มีรายงานการเสียชีวิตของทหาร แม้ว่าภรรยาของผู้นำกัมพูชา ฮุน มาเนด จะเข้าร่วมงานศพของทหารที่เสียชีวิตในการสู้รบ ตามที่โพสต์อย่างเป็นทางการบนเฟซบุ๊ก

การสู้รบยังคงดำเนินต่อไปในวันศุกร์ โดยกัมพูชากล่าวหาไทยว่าเพิ่มการโจมตีทางอากาศในพื้นที่ชายแดนพิพาท ขณะที่สื่อไทยรายงานว่ากัมพูชาได้เปิดการโจมตีในช่วงข้ามคืน

วัดที่เป็นข้อพิพาทนั้นถูกอ้างสิทธิ์โดยทั้งสองประเทศเนื่องจากการกำหนดเขตแดนที่ไม่ชัดเจนโดยผู้บริหารอาณานิคมฝรั่งเศสของกัมพูชาในปี 1907 การกำหนดเขตแดนเหล่านั้นยังคงต้องได้รับการแก้ไขหลังจากการหยุดยิง

แต่ในคืนวันศุกร์ นายกรัฐมนตรีอนุทิน ชาญวีรกุล ของไทย ได้แสดงท่าทีในแง่ดี โดยประกาศว่ารัฐมนตรีกลาโหมของทั้งสองประเทศจะพบกันในวันรุ่งขึ้น และอาจลงนามในข้อตกลงหยุดยิงได้

“คุณสามารถไว้วางใจประเทศไทยได้ เรายึดมั่นในข้อตกลงและพันธสัญญาของเราเสมอ ขอให้การลงนามครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย เพื่อให้สันติภาพกลับคืนมา และประชาชนของเราสามารถกลับบ้านได้” เขากล่าว

การเลือกตั้งทั่วไปในประเทศไทยมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้

---

ติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่ เว็บไซต์ หรือ Facebook และ Instagram